หมายถึง
สิ่งสำคัญที่ทำให้คุณภาพน้ำเสื่อมลง คือการเกิดมลพิษทางน้ำที่มนุษย์เป็นต้นเหตุ
มลพิษทางน้ำคือภาวะที่น้ำปนเปื้อนสารแปลกปลอมต่าง ๆ
จนทำให้คุณภาพน้ำเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือเสื่อมคุณภาพจนเป็นอุปสรรคหรือเกิดอันตรายจากการใช้น้ำนั้น
และก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยสารแปลกปลอมเหล่านั้นปนเปื้อนเข้าสู่น้ำได้เมื่อน้ำถูกใช้ในกิจกรรมต่าง
ๆที่มีสิ่งปนเปื้อนเหล่านั้นและถูกน้ำถูกระบายทิ้งเมื่อคุณภาพน้ำเสื่อมลง
สภาพปัญหา
ด้านกายภาพ
เป็นลักษณะของมลพิษที่สามารถบ่งชี้ได้ด้วยวิธีทางกายภาพ เช่น ความขุ่น
ของแข็งในน้ำ อุณหภูมิ ไขมัน สี และกลิ่น เป็นต้น
ด้านเคมี
เป็นมลพิษที่ต้องใช้วิธีการทางด้านเคมีในการบ่งชี้ ซึ่งสารมลพิษประเภทนี้มีมากมายหลายชนิด
เราอาจแบ่งประเภทของสารมลพิษชนิดนี้ได้เป็นสองกลุ่มใหญ่ คือ
1) สารอินทรีย์ เป็นสารมลพิษที่ประกอบด้วยธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจนเป็นหลัก และอาจจะมีธาตุอื่น ๆ เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส ซัลเฟอร์ หรือธาตุอื่น ๆ เป็นส่วนประกอบด้วย สารมลพิษประเภทนี้อาจจะมีลักษณะคล้ายโปรตีน หรือคาร์โบไฮเดรต การบ่งชี้สารมลพิษประเภทนี้มักจะบ่งชี้ในรูปแบบของค่า บีโอดี ซีโอดี
2) สารอนินทรีย์ เป็นสารมลพิษที่ประกอบด้วยธาตุต่าง ๆ เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โลหะ โลหะหนัก ฯลฯ สารอนินทรีย์บางชนิดมีอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต แม้ว่าจะพบในปริมาณต่ำ เช่น ไซยาไนด์ การบ่งชี้ลักษณะของสารมลพิษกลุ่มนี้มักจะบ่งชี้ปริมาณของสารหรือธาตุนั้น ๆ ในน้ำ
ด้านชีวภาพ เป็นการบ่งชี้ปริมาณของจุลินทรีย์ที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำ ซึ่งจะมุ่งไปที่จุลินทรีย์ที่เป็นก่อโรคได้ หรือจุลินทรีย์ที่ตรวจพบได้ง่ายและสามารถใช้บ่งชี้จุลินทรีย์ที่ก่อโรคในน้ำ หรือบ่งชี้การปนเปื้อนของน้ำได้ เช่น ฟีคัลโคลิฟอร์ม หรือ แบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์ม
1) สารอินทรีย์ เป็นสารมลพิษที่ประกอบด้วยธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจนเป็นหลัก และอาจจะมีธาตุอื่น ๆ เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส ซัลเฟอร์ หรือธาตุอื่น ๆ เป็นส่วนประกอบด้วย สารมลพิษประเภทนี้อาจจะมีลักษณะคล้ายโปรตีน หรือคาร์โบไฮเดรต การบ่งชี้สารมลพิษประเภทนี้มักจะบ่งชี้ในรูปแบบของค่า บีโอดี ซีโอดี
2) สารอนินทรีย์ เป็นสารมลพิษที่ประกอบด้วยธาตุต่าง ๆ เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โลหะ โลหะหนัก ฯลฯ สารอนินทรีย์บางชนิดมีอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต แม้ว่าจะพบในปริมาณต่ำ เช่น ไซยาไนด์ การบ่งชี้ลักษณะของสารมลพิษกลุ่มนี้มักจะบ่งชี้ปริมาณของสารหรือธาตุนั้น ๆ ในน้ำ
ด้านชีวภาพ เป็นการบ่งชี้ปริมาณของจุลินทรีย์ที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำ ซึ่งจะมุ่งไปที่จุลินทรีย์ที่เป็นก่อโรคได้ หรือจุลินทรีย์ที่ตรวจพบได้ง่ายและสามารถใช้บ่งชี้จุลินทรีย์ที่ก่อโรคในน้ำ หรือบ่งชี้การปนเปื้อนของน้ำได้ เช่น ฟีคัลโคลิฟอร์ม หรือ แบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์ม
สาเหตุ
ปัจจุบันคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำต่าง
ๆ ทั่วประเทศทั้งแหล่งน้ำผิวดิน แหล่งน้ำใต้ดิน และแหล่งน้ำทะเล
โดยเฉพาะในบริเวณที่มีความหนาแน่นของชุมชนและกิจกรรมการพัฒนาต่างๆ
กำลังประสบปัญหาความเสื่อมโทรม อันเนื่องมาจากการปนเปื้อนของสารพิษต่าง ๆ
ที่มาจากกิจกรรมของมนุษย์ ทั้งกิจกรรมจากชุมชนตามความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
การพัฒนาอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และการท่องเที่ยว โดยมีผลทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในคุณสมบัติของทรัพยากรน้ำทั้งทางกายภาพ
และชีวภาพ รวมทั้งความสมดุลของระบบนิเวศในแหล่งน้ำนั้น ๆ
จนเกิดผลกระทบต่อการใช้ประโยชน์ ความเสื่อมโทรมหรือความเน่าเสียของทรัพยากรน้ำนั้น
จะปรากฏทั้งในรูปของการสูญเสียออกซิเจนละลายน้ำ (DO) การมีสารอินทรีย์ตัวทำลายออกซิเจน (BOD) และแบคทีเรียชนิดโคลิฟอร์ม
(TBC)
ผลกระทบ
ผลกระทบของน้ำเสียมีดังต่อไปนี้
คือน้ำจะมีสีและกลิ่นที่น่ารังเกียจ น้ำเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ
เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เป็นแหล่งของเชื้อโรคต่างๆ
สู่มนุษย์ สัตว์ และพืช อีกทั้งยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพ รวมทั้งมลพิษทางน้ำจะส่งผลให้มีการทำลายทัศนียภาพในเรื่องสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวด้วย
มนุษย์จะได้รับผลกระทบที่เป็นอันตรายทั้งทางตรงและทางอ้อมที่จะเกิดขึ้นในปัจจุบัน
และในอนาคต
แนวทางป้องกันและแก้ไข
1.เร่งรัดฟื้นฟูคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำสำคัญทั่วประเทศ
2.ลดและควบคุมมลพิษทางน้ำ อันเนื่องมาจากกิจกรรมของชุมชน
เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม
3.ผู้ก่อมลพิษทางน้ำต้องมีส่วนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดมลพิษทางน้ำ
4.ส่งเสริมให้การสนับสนุนให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมลงทุน
และดำเนินการจัดการเพื่อการแก้ไขปัญหาน้ำเสีย
การอนุรักษ์
1.ให้มีระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียรวมสำหรับชุมชนในระดับเทศบาล
และสุขาภิบาลทั่วประเทศ โดยสนับสนุนให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วม
2.ส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนของส่วนราชการท้องถิ่น
รัฐวิสาหกิจและเอกชน ในการก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียรวม
โดยการจัดสรรงบประมาณ สมทบกองทุนสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้นตามความต้องการ
3.เร่งรัดให้มีการนำมมาตรการการจัดเก็บค่าบริการบำบัดน้ำเสียไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
โดยมอบหมายให้ส่วนราชการท้องถิ่น หรือองค์กรที่มีหน้าที่โดยตรงเป็นผู้ดำเนินการ
ด้านกฎหมาย
กำหนดและปรับปรุงมาตรการคูณภาพน้ำในแหล่งสำคัญ
และมาตรฐานน้ำทิ้งจากกแหล่งกำเนิดต่างๆ ให้เหมาะสม และทันต่อสถานการณ์ กำหนดและปรับปรุงประเภทและขนาดของแหล่งกำเนิดน้ำเสียหรือกิจกรรมที่ต้องควบคุมการปล่อยน้ำเสีย รวมทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขต่างๆ เพื่อควบคุมและติดตามตรวจสอบ การระบายน้ำเสียอย่างต่อเนื่อง
เสริมสร้างสมรรถภาพทางวิชาการอุปกรณ์ เครื่องมือ และกฎหมาย เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ในระดับท้องถิ่น
ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เอื้ออำนวยต่อการแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำ ตลอกจนเร่งรัดออกกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ เพื่อให้การลดและควบคุมมลพิษทางน้ำเป็นไปตามเป้าหมาย
ด้านการสนับสนุน
สนับสนุนและร่วมมือกับภาคเอกชนและองค์กรต่างๆ
ในการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและผู้ประกอบกิจการ มีความรู้ มีความเข้าใจ
และมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการจัดการคุณภาพน้ำ และการควบคุมน้ำเสียจากแหล่งกำเนิด
สนับสนุนให้มีการศึกษา วิจัย เพื่อพัฒนาและส่งเสริมเทคโนโลยีการจัดการคุณภาพน้ำ และการควบคุมน้ำเสียจากแหล่งกำเนิดให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งสนับสนุนให้ดำเนินผลการวิจัยไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม
ให้มีการลดภาษีอากรสำหรับการนำเข้าเครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ วัสดุ เพื่อการบำบัดน้ำเสียให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดแรงจูงใจและความรวบมือในการจัดการน้ำเสีย
สนับสนุนให้มีการศึกษา วิจัย เพื่อพัฒนาและส่งเสริมเทคโนโลยีการจัดการคุณภาพน้ำ และการควบคุมน้ำเสียจากแหล่งกำเนิดให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งสนับสนุนให้ดำเนินผลการวิจัยไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม
ให้มีการลดภาษีอากรสำหรับการนำเข้าเครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ วัสดุ เพื่อการบำบัดน้ำเสียให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดแรงจูงใจและความรวบมือในการจัดการน้ำเสีย
พื้นที่ที่ได้ไปสำรวจการเสื่อมโทรมของแหล่งน้ำจืด
น้ำคลอง
แหล่งน้ำจืดข้างโรงงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น